ค่ายหลวงบ้านไร่ จ.ราชบุรี
ค่ายลูกเสือระดับชาติ

ค่ายหลวงบ้านไร่ จังหวัดราชบุรี
ที่ตั้ง เลขที่ ๑๖๙ หมู่ที่ ๓ ตำบลคลองตาคต อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี
ประวัติค่าย
- สยามประเทศในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตกอยู่ในยุคล่า อาณานิคมของชาติตะวันตก จากเหตุการณ์ ร.ศ. ๑๑๒ ตรงกับ พ.ศ.๒๔๓๖ ฝรั่งเศส นำเรือรบปิดอ่าวไทยที่จังหวัดสมุทรปราการ เรียกว่าสงครามฝรั่งเศส-สยาม เราแพ้ฝรั่งเศสต้องเสียดินแดนเสียค่าปรับ ๓ ล้านฟรังก์ และห้ามไม่ให้มี การซ้อมรบทหาร แต่ด้วยพระอัจฉริยภาพของรัชกาลที่ ๕ ทรงเห็นว่าถ้าสยามไม่มีมิตรประเทศทางตะวันตกบ้าง สักวันสยามต้องตกเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตกแน่นอน แนวทางหนึ่งที่รัชกาลที่ ๕ ผูกไมตรีกับชาติตะวันตกคือการส่งเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ พระราชโอรส ซึ่งขณะนั้นมีพระชนมายุ ๑๓ พรรษา ได้ศึกษาที่มหาวิทยาลัย อ๊อกซฟอร์ด และ โรงเรียนนายร้อยทหารบกแซนด์เฮิสต์ ณ ประเทศอังกฤษ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๓๖ - พ.ศ.๒๔๔๕
- เมื่อ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๕๓ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมารเสด็จขึ้นครองราชย์ พระนามว่า พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์มีพระประสงค์ที่จะให้ข้าราชการและพลเรือนได้เรียนรู้วิชาทหาร เพื่อคุณประโยชน์ต่อบ้านเมือง รู้จักระเบียบวินัย เคารพกฎหมายบ้านเมือง มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเป็นกำลังสำรอง ทรงได้จัดตั้งกองเสือป่าประจำพระองค์ขึ้นเมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม ๒๔๕๔ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้มีการซ้อมรบเสือป่า ในฤดูแล้งทุกปี เริ่ม พ.ศ.๒๔๕๔ – พ.ศ.๒๔๖๗ บริเวณปริมณฑล จังหวัดนครปฐม จังหวัดราชบุรี จังหวัดเพชรบุรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสด็จซ้อมรบ ณ ทุ่งซ้อมรบที่บ้านไร่ ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ระหว่าง ๒๔๖๒ – ๒๔๖๗ จำนวน ๙ ครั้ง ดังนี้
ครั้งที่ ๑ เมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๒
ครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๒
ครั้งที่ ๓ เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๓
ครั้งที่ ๔ เมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๓
ครั้งที่ ๕ เมื่อวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๔
ครั้งที่ ๖ เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๖
ครั้งที่ ๗ เมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๖
ครั้งที่ ๘ เมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๗
ครั้งที่ ๙ เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๗
การซ้อมรบที่บ้านไร่
การซ้อมรบที่บ้านไร่เป็นการฝึกภาคปฏิบัติ มีการสมมติเหตุการณ์ต่างๆขึ้นมีการโจมตีระหว่าง ๒ ฝ่าย คือฝ่ายแดงและฝ่ายน้ำเงิน มีการขุดสนามเพลาะหัดเพลงอาวุธ ฝึกสะกดรอยตามรอยผู้ร้ายตอนกลางคืน ทรงแสดงละครร่วมกับ เสือป่า ให้ชาวบ้านได้ชม ทุกครั้งที่พระองค์ เสด็จซ้อมรบที่บ้านไร่ ชาวบ้านจะตัดใบตาล มาขายให้พระองค์ พระองค์จะซื้อใบตาลที่ชาวบ้านนำมาขายใบละ ๑ สตางค์ มีเท่าไรพระองค์ซื้อหมดทุกครั้ง จนชาวบ้านเรียกพระองค์ว่า “พระเจ้าแผ่นดินใบตาล”ฯพณฯ ม.ล.ปิ่น มาลากุล มีบันทึกว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคงจะโปรดบ้านไร่นี้มาก จึงมีประทับแรม ณ ที่นั้นอีกหลายครั้ง”
ความเป็นมาขอการสร้างค่ายหลวงบ้านไร่
ค่ายหลวงบ้านไร่ตั้งอยู่ที่เลขที่ ๑๖๙ หมู่ที่๓ ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี นับเป็นค่ายลูกเสือแห่งชาติแห่งที่ ๒ ของสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ เดิมเป็นที่ของวัดร้างชื่อวัดส้มเกลี้ยง ปัจจุบันมีเนื้อที่ ๘๙ ไร่ ๔ ตารางวา การกำเนิดของค่ายหลวงบ้านไร่ เกิดขึ้นเพราะว่า ฯพณฯ อภัย จันทวิมล ได้ถาม ฯพณฯ ม.ล.ปิ่น มาลากุล ว่าในวันเกิดครบ ๗ รอบ (พ.ศ. ๒๕๓๐) ท่านต้องการอะไรเป็นที่ระลึก ฯพณฯ ม.ล.ปิ่น มาลากุล ตอบว่า “อยากจะได้รับพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องเสือป่า ในพระราชอิริยาบถประทับพระเก้าอี้ผ้าใบทอดพระเนตรซ้อมรบที่บ้านไร่” เพราะยังระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์อยู่ในฐานะที่เคยเป็นนักเรียนเสือป่ารับใช้ใกล้ชิดกับพระองค์ท่าน เมื่อคราวที่พระองค์ท่านเสด็จทอดพระเนตรการซ้อมของเสือป่า ณ บริเวณทุ่งซ้อมรบบ้านไร่ ตำบลคลองตาคต อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ฯพณฯ อภัย จันทวิมล รับว่าจะช่วยตั้งคณะกรรมการดำเนินการให้ ฯพณฯ ม.ล.ปิ่น มาลากุล ค้นหาสถานที่ ที่เคยตามเสด็จซ้อมรบที่บ้านไร่จนพบ หลักฐานที่ทำให้ ฯพณฯ ม.ล.ปิ่น มาลากุล ย้อนรำลึกถึงความทรงจำครั้งตามเสด็จ ณ ทุ่งซ้อมรบที่บ้านไร่ ได้คือ
๑) ต้นมะปรางที่มีรสชาดเปรี้ยวมาก เปรี้ยวจัด เปรี้ยวจนจำฝังใจ เพราะเคยได้ชิมเป็นสิ่งแรกที่ ฯพณฯ เดินเข้าไปหาดู (ปัจจุบันเป็นต้นลูกของต้นเดิม)
๒) บ่อสรง เป็นบ่อน้ำ ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงผ้าขาวม้า ตักน้ำที่บ่อนี้สรงน้ำ ยังมีสภาพคงเดิมจากการรักษาไว้ของชาวบ้าน
๓) บริเวณที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้งพลับพลาที่ประทับพักแรมชั่วคราว
๔) บริเวณที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่านประทับเตียงผ้าใบทอดพระเนตรการซ้อมรบเสือป่า
เมื่อพบสถานที่ที่ต้องการแล้ว ฯพณฯ อภัย จันทวิมล จึงได้ดำเนินการจัดตั้งกรรมการฝ่ายต่างๆขึ้นเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ การวางศิลาฤกษ์ฐานที่ตั้งพระบรมรูป ในวันพุธที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๓๐ โดย ฯพณฯ ม.ล. ปิ่น มาลากุล
วันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๓๑ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงประกอบพิธีเปิด ฯพณฯ ม.ล. ปิ่น มาลากุล กำหนดชื่ออาคารสถานที่ที่ค่ายหลวงบ้านไร่ต้องมีไว้ ๗ อาคาร คือ
๑. “ร่วมใจสามัคคี” เป็นอาคารชั่วคราว พักผ่อน ปรึกษาหารือ วางแผน
๒. “สวัสดีบ้านไร่” เป็นสถานที่รับเสด็จรัชกาลที่ ๙
๓. “ไชโย ไชโย” ที่จำหน่ายของที่ระลึก
๔. “สโมสรเสือป่า” ทดแทนสโมสรเสือป่าที่สนามเสือป่าในกทม. เพื่อให้
ความรู้ ปลูกฝังให้เกิดความรักในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
๕. “ธรรมาธิปไตย” ดำริจะจัดตั้งขึ้นเป็นโรงเรียนตัวอย่าง
๖. “อนามัยของเรา” ให้บริการประชาชน และการปฐมพยาบาลผู้อยู่
ค่ายพักแรม
๗. “น้อมเกล้าสุภัทรา” คุณหญิงสุภัทรา ถวายเงินสร้างอาคารเรียนธรรมาธิปไตย ๒ ล้านบาท